1. ชีวิตในวัยเด็กและเยาวชน

            คุณแม่ลุยยีนา ดี โยร์โย เกิดที่เมืองทาวางาโก แขวงอูดีเน ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 25 เมษายน 1900? จากบิดามารดาที่มีใจศรัทธาและเข้มแข็ง คือ นายยาโกโม และนางอันนา? กีอันเนตตี ท่านเป็นบุตรหญิงคนที่สี่ ในจำนวนพี่น้องหญิงทั้งหมด 6 คน

        ท่านเล่าให้ซิสเตอร์ผู้รับใช้ ฯ คนหนึ่งฟังว่า ขณะมีครรภ์ คือมีท่านเองอยู่ในครรภ์นั้น มารดาเป็นโรคที่ต้องเจาะเอาเลือดออกเพราะมีเลือดมากไป คุณหมอก็ถามบิดาของท่านก่อนว่า จะเอาลูกไว้หรือเอาแม่ เพราะการเจาะเอาเลือดออกอาจจะมีอันตรายถึงชีวิต บิดาท่านตอบว่า เอาแม่ไว้ (เพราะลูกยังไม่เกิดก็ยังไม่เห็น ก็ไม่รัก) ในที่สุด หมอเจาะเอาเลือดทิ้งไปบ้าง และที่สุดก็รอดทั้งแม่ทั้งลูก เวลาที่ยังเล็กอยู่ ท่านต้องกินอาหารบำรุง เช่นตับไก่อยู่เสมอ และยังมีผลต่อสุขภาพของท่านต่อ ๆ มา [1]

        พื้นฐานอีกอย่างหนึ่งที่มีผลต่อบุคลิกภาพของท่านก็คือ ครอบครัวของท่านไม่มีลูกชายเลย บิดาก็อยากได้ลูกชายสักคนเป็นธรรมดา ดังนั้น คุณแม่ลุยยีนา บุตรหญิงคนที่สี่ ก็เลยเป็นคนที่มีลักษณะเข้มแข็งเหมือนผู้ชาย ตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะรักและสนิทกับบิดา ชอบไปไหนกับบิดาเสมอ ทำงานหนักเหมือนเป็นลูกผู้ชาย เป็นมือขวาของบิดาในการทำงาน การซื้อของและการจัดการเรื่องต่าง ๆ ภายในบ้าน และเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ก็ใช้เวลาว่างไปช่วยงานของคุณพ่อเจ้าวัด เช่นสอนคำสอนสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เข้ากลุ่มเยาวชน ต่อมาก็ได้รับเลือกให้เป็นประธานกลุ่มเยาวชนหญิงของวัด และด้วยความที่เป็นคนร่าเริงและมีชีวิตชีวา ท่านก็ดึงดูดบรรดาเยาวชน และช่วยพวกเขาให้มีความศรัทธาและเป็น คริสตชนที่ดี [2]

         ตั้งแต่วัยเด็ก พระเจ้าประทานญาณพิเศษให้ท่านรับรู้อะไรล่วงหน้า ท่านเล่าว่า เมื่อท่านยังอยู่กับบิดามารดา จำไม่ได้ว่าอายุกี่ขวบ (คงจะเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง) เช้าวันหนึ่งท่านแต่งตัวสีดำไว้ทุกข์ ออกจากบ้านจะไปวัด พอดีพบบิดาในสวน บิดาถามว่าทำไมแต่งตัวแบบนี้ ไว้ทุกข์ใคร ลุยยีนาตอบว่า "ไว้ทุกข์พี่เขย เมื่อคืนนี้มาหา เขาตายแล้วในสนามรบ" บิดาดุว่า "แต่งตัวแบบนี้ได้หรือ รีบไปเปลี่ยน เดี๋ยวพี่สาวรู้เรื่องเข้าเสียใจตาย" ลุยยีนา ก็รีบไปเปลี่ยน และทำใจปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอสายๆ ก็มีคนเอาเครื่องหมายททารของพี่เขย ที่แสดงว่าทหารตายแล้วส่งมาให้ทางบ้าน ทุกคนในบ้านทราบความจริง แต่ลุยยีนาทราบ เพราะพี่เขยมาหาและบอกข่าวก่อนแล้ว ท่านจึงรู้ก่อนคนอื่น ๆ ก็เป็นสิ่งที่แปลก[3]

        เป็นเรื่องน่าสนใจที่จะคิดว่า ท่านปาซอตตีถูกส่งไปทำการรบที่อูดีเน บ้านเกิดของคุณแม่ลุยยีนา ขณะที่คุณแม่ยังเป็นเด็กอยู่ (ระหว่างปี 1916-1918) และพระญาณเอื้ออาทรของพระเจ้าทรงนำท่านทั้งสองมาพบกันในงานธรรมทูตที่บางนกแขวก


[1] ?ซ.วชิรา กฤษบำรุง สมาชิกภคินีผู้รับใช้ ฯ คนหนึ่ง? ได้รับฟังคำเล่าจากคุณแม่ลุยยีนา ระหว่างที่สนทนากับคุณแม่เป็นการส่วนตัว? แต่ไม่ได้บันทึกวันที่เล่าไว้ ???เทียบ?? Ispettoria Thailandese, ?Cenni Biografici di Sr.Luigina di Giorgio,? SIHM 10.2002 ??p.17

[2] ?เทียบ? Ispettoria Thailandese,? Cenni Biografici di Sr.Luigina di Giorgio, SIHM 10.2002? ??p.1

[3] ?ซ.วชิรา กฤษบำรุง ผู้รับฟัง ??เทียบ?? Ispettoria Thailandese,? Cenni Biografici di Sr.Luigina di Giorgio SIHM 10.2002? ?p.17