5.?? สนามงานใหม่ของคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ที่บ้านโป่ง

????????? วันที่ 6 มกราคม 1934? มีการแยกหมู่คณะซิสเตอร์ธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ออกจากหมู่คณะพรหมจารีผู้อาวุโส (นักบวชรักกางเขน) อย่างเป็นทางการ? หลังจากรอเวลาที่เหมาะสมและดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป?? ดังนั้น ชีวิตและการทำงานจึงดำเนินไปอย่างราบรื่นมากขึ้น? และสามารถริเริ่มกิจกรรมใหม่ ๆ เช่น ตั้งชมรมเยาวชนในวันฉลองนักบุญอังเนสในปีนั้น ??????

????? ตั้งแต่แรก? หมู่คณะธรรมทูตที่บางนกแขวกขึ้นโดยตรงกับผู้ใหญ่ที่?? ตุริน? จนกระทั่งเดือนตุลาคมปี 1934 ผู้ใหญ่ได้จัดให้หมู่คณะในประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของแขวงมัทราส อินเดีย[1]? ในช่วงแรกยังมีซิสเตอร์มาเรีย อาวีโอ จากมัทราสเป็นอธิการ และคุณแม่ Tullia Bernardini เป็นอธิการิณีเจ้าคณะแขวงคนแรก?? ท่านได้มาเยี่ยมสมาชิกที่บางนกแขวกเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 12- 15 มีนาคม 1934 ????และอธิการิณีเจ้าคณะแขวงคนต่อมา คือ คุณแม่ Clotilde Cogliolo? ซึ่งได้มาเยี่ยมสมาชิกปลายปีเดียวกัน

???? ในปี 1935? ซิสเตอร์มาเรีย อาวีโอ ได้เดินทางกลับถิ่นธรรมทูตของท่านที่ประเทศอินเดีย? ซิสเตอร์มาเรีย บัลโด เป็นอธิการของหมู่คณะแทน? วันที่ 6 ธันวาคม 1935 มีสมาชิกใหม่มาเพิ่ม 4 คน คือ ??????ซิสเตอร์มาเรีย ทูเรลลี? ซิสเตอร์ลุยยีนา มีโอเรลลี? ซิสเตอร์เซเวรีนา กาออด และซิสเตอร์สเตฟาเนีย บอนมาสซาร์? ไม่กี่วันหลังจากนั้นอธิการิณีเจ้าคณะแขวงก็เดินทางไปบ้านโป่งที่ซึ่งซาเลเซียนได้เริ่มงาน และกิจการที่นั่นกำลังเจริญก้าวหน้า? และซาเลเซียนที่นั่นต้องการความช่วยเหลือจากบรรดาซิสเตอร์? อยากให้ไปช่วยดูแลเรื่องอาหาร เสื้อผ้าของสมาชิกและนักเรียนประจำ? และขณะเดียวกันสามารถเปิดโรงเรียนของวัดสำหรับเด็กหญิงใกล้ ๆ กับโรงเรียนของซาเลเซียนด้วย[2]

???????ในปี 1936 คณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ รับคำเชิญของคุณพ่อปาซอตตีให้เริ่มงานที่บ้านโป่งเป็นบ้านที่สอง? ท่านบอกว่า "ที่นั่น พวกท่านจะมีสนามงานที่กว้างขวาง? ถึงเวลาที่จะเริ่มงานที่สองได้แล้ว"?

??????? ตอนแรกคณะตั้งใจส่งซิสเตอร์เพียงสองคนไปที่บ้านโป่งก่อน? คือ ???ซิสเตอร์ลุยยีนา ดี โยร์โย ให้ดูเรื่องงานครัวและเสื้อผ้า? และซิสเตอร์อันตนเนียตตา โมเรลลาโตเป็นผู้ดูแลบรรดาเด็กนักเรียนหญิงทั้งไป-กลับและนักเรียนประจำซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กกำพร้าด้วย?? คุณแม่มาเรีย บัลโดนำ ซิสเตอร์ทั้งสองไป

???? พวกเขาได้รับการต้อนรับด้วยความรักยิ่งจากคุณพ่อปาซอตตี อธิการและสมาชิกซาเลเซียน? มีบันทึกไว้ว่า? "เมื่อพวกเขาเข้าไปในบ้านที่ยากจนที่เตรียมไว้ให้พวกเขา? ก็มีเสียงปรบมืออย่างมีชีวิตชีวาของบรรดานักเรียน มีครูหญิงคนหนึ่งนำแสดงการต้อนรับและมอบช่อดอกไม้ พร้อมกับเพลงและการฟ้อนรำด้วยความยินดี?

ชีวิตของคุณแม่ลุยยีนา ดีโยร์และซิสเตอร์อันตนเนียตตาที่บ้านโป่ง เริ่มด้วยความยากจนมากกว่าที่บางนกแขวก? งานก็มากกว่า เรียกร้องความเสียสละ ไม่มีความสะดวกสบายเลย? ที่พักเป็นกระท่อมไม้? ในระหว่างฤดูใบไม้ผลิปีนั้น คุณแม่ลุยยีนาก็ล้มป่วยด้วยอหิวาตกโรค ซึ่งกำลังระบาดอยู่? ท่านไม่อยากจะทิ้งงานแต่ก็ไม่มีหมอ ไม่มียารักษา ท่านจึงมีอาการทรุดลงเรื่อย ๆ

???? อันที่จริงมี"หมอ" ชื่อ มัตธิว ซึ่งรักษาผู้ป่วยทุกคนด้วยสมุนไพร? เมื่อมาดูแลคุณแม่ลุยยีนา เขาได้แต่ย้ำถามคำถามเดิมว่า? "ดีขึ้นแล้วใช่ไหม ? เกือบหายแล้ว !"??

ซิสเตอร์ลุยยีนา จำคำที่ว่า "ช่วยตนเองแล้วพระเจ้าจะช่วยท่าน"? ดังนั้นวันหนึ่งจึงพูดกับ "หมอ" ว่า "ขอบคุณ คุณหมอ ฉันหายขาดแล้ว !"

ด้วยการดูแลตนเอง คุณแม่ก็หายจากโรคจริง ๆ ...

กลางเดือนมีนาคม คุณแม่โกลธิลเด โกลีโอโล? กลับมาเยี่ยมอีกครั้ง? จึงได้ส่งซิสเตอร์มาเรีย ทูเรลลี และซิสเตอร์เซเวรีนา กาออด ไปช่วยงานที่บ้านโป่ง ?

?ต่อมาในเดือนพฤษภาคม บรรดาซิสเตอร์ได้รับความบรรเทาใจจากการเยี่ยมของผู้ใหญ่คณะซาเลเซียน คือ คุณพ่อเปโตร เบรุตี? และคุณพ่ออันตน กันเดลา[3]?

??????????? เมื่อเปิดกิจการใหม่ที่บ้านโป่ง? สมาชิกธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ที่บางนกแขวกก็คงเหลืองานในสถานพยาบาล งานในโรงเรียน บ้านเด็กกำพร้าและงานช่วยบรรดาซาเลเซียน?


[1] ?เทียบ? Alessi Antonio,? Con Maria nel Paese del Buddismo SIHM 01.2206 p.40

[2] ??เทียบ? Alessi Antonio,? Con Maria nel Paese del Buddismo? SIHM 01.2206 p.45-46

[3] ?เทียบ? Alessi Antonio,? Con Maria nel Paese del Buddismo? SIHM 01.2206 ?pp.48-49