บ้านพระมารดาแห่งสันติภาพ.....
คณะภคินีผู้รับใช้ฯ ในประเทศกัมพูชา
คณะภคินีผู้รับใช้ฯ ได้ติดตามสภาพทางสังคมและสภาพของพระศาสนาจักรหลังสิ้นสุดสงคราม กลางเมืองของประเทศกัมพูชาแล้ว เห็นว่า ประเทศอยู่ในสภาพที่ต้องการการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน
คณะซาเลเซียนและคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ ได้เข้าไปช่วยเหลือเยาวชนชาย-หญิงตามจิตตารมณ์ของคณะ
ในปี ค.ศ.1993 สมัยที่คุณแม่อังแนสวิไลวรรณ ยนปลัดยศ ดำรงตำแหน่งอธิการิณีเจ้าคณะ คุณพ่อประธาน ศรีดารุณศีล อธิการเจ้าคณะแขวงซาเลเซียนแห่งประเทศไทย ได้เชิญคณะให้ไปร่วมทำงานที่กัมพูชา คณะภคินีฯผู้รับใช้ได้ทราบความต้องการเร่งด่วนของพี่น้องชาวกัมพูชา ในด้านศาสนาและศีลธรรม ที่สุด
ในปี ค.ศ. 1997 คณะได้ส่งซิสเตอร์พรทิพย์ แก้วกิ่งและ ซิสเตอร์สุดาทิพย์ เจริญพานิช ไปทำงานในประเทศกัมพูชาในนามของคณะธรรมทูตไทยที่วัดกำปงโรเต๊ะ จังหวัดกำปงธม ร่วมกับพระสงฆ์ในงานอภิบาล มีงานสอนคำสอน งานพิธีกรรม งานอภิบาลครอบครัวและงานด้านฝึกอาชีพ สำหรับสตรีและเยาวชน ดูแลเด็กและเยาวชนที่มาจากหมู่บ้าน มาพักที่หอพักของวัด เพื่อไปเรียนในเมือง ในปี ค.ศ. 2002 ซิสเตอร์มารีอา กัลยา ฉัตรบรรยงค์ ได้ถูกส่งเป็นธรรมทูตคนที่ 3
ปีค.ศ. 2002-ค.ศ. 2009 ซิสเตอร์ทั้งสามได้เริ่มและเปิดโรงเรียนอนุบาลเล็ก ๆ ขึ้นอีก 2 ชุมชน จากการทำงานใกล้ชิดกับเด็กและเยาวชน เมล็ดพันธุ์แห่งกระแสเรียกก็เริ่มงอกงามและเกิดผล ซิสเตอร์มารีย์มักดาเลนา สุขลิน กึก ได้ถวายตัวครั้งแรกแด่พระเจ้าในเดือนพฤษภาคม
ปี ค.ศ. 2010 ที่กัมปงธม ทำให้มีสมาชิกทำงานในกัมพูชาเพิ่มขึ้นเป็น 4 คน
ปี ค.ศ. 2012 ปีที่ 75 แห่งการก่อตั้งคณะ พระเจ้าทรงประทานพระคุณแห่งชีวิตธรรมทูตแก่คณะ
เพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง คือซิสเตอร์เทเรซา จีรนันท์ กิมเล็ก ได้ไปเริ่มชีวิตธรรมทูตในกัมพูชาจึงมีสมาชิกภคินีผู้รับใช้ฯ 5 คนดำเนินงานอยู่ที่กัมปงธม ซึ่งพระสังฆราชฟีกาเรโด(กีเก้) เอส.เจ. มอบหมายงานใหม่ให้ทำที่เสียมเรียบ อีกแห่งหนึ่ง นับเป็นอีกก้าวหนึ่งในงานธรรมทูต และเป็นผลแห่งการทรงนำของพระเจ้า ร่วมกับความเสียสละและความร่วมมือร่วมใจของสมาชิกทุกคน ซึ่งมั่นใจในพระวาจาที่ว่า “เมล็ดที่ยอมเปื่อยเน่าไป ก็จะเกิดผลมาก”